Moun-Model

หลักสูตร อีคอมเมิอร์ช และ พัฒนาแอปโมบาย เปิดรับสมัคร 1 เมษายน -15 พฤษภาคม 67

ธุรกิจออนไลน์แบบ Dropshipping

การทำ Online Business



ผู้คนส่วนมาก มักเริ่มด้วยความคิดที่ว่า หาตลาดที่มีคู่แข่งต่ำๆ (Niche Product) จะได้สู้เค้าได้ แต่ปกติแล้วสิ่งที่เราเจอมักจะเป็นว่า คู่แข่งต่ำๆ = สินค้าที่คนไม่ค่อยมีความต้องการ และขายยาก มันจะเป็นอย่างไรถ้าคุณติดอันดับหนึ่งใน Amazon ด้วย Keyword “Florescent Green Swim Caps” (หลอดไฟฟลูออเรสเซนส์ สีเขียว ในสระว่ายน้ำ)  คุณคิดว่า จะมีคนซื้อสินค้าของคุณเยอะไม๊?? ความลับคือ คุณต้องหาหมวดหมู่หลัก และหมวดหมู่ย่อย ของสินค้าที่มี “ความต้องการ” (ที่ยังมีการแข่งขันที่ไม่สูงเกินไป

หากคิดทำธุรกิจออนไลน์จงตอบคำถาม3ข้อนี้ให้ได้
1.ขายอะไรดี ? คุณต้องเริ่มที่ทำการค้นคว้า หาข้อมูลเรื่องการตลาดมาเป็นอย่างดีว่าสินค้าชนิดนี้ ยังมีอนาคตหรือไม่ ถ้ามีก็ลุยขั้นต่อไป
2.นำสินค้าจากที่ไหนมาขาย ? ตรงนี้สำคัญมากเพราะ อย่าฝากชีวิตไว้กับคู่ค้าเพียงรายเดียวให้มีคู่ค้า (ร้านค้าส่ง) หลาย ๆ เจ้าเพื่อลดความเสี่ยงทางธุรกิจลงไป
3.ขายที่ไหนดี ? รู้จักลูกค้าของคุณให้ดีเสียก่อนเพราะ ถ้าคุณรู้จักลูกค้าของคุณจริง ๆ แล้วคุณจะรู้ว่า สถานที่ไหน ทำเลใดกลุ่มลูกค้าของคุณใช้งานอยู่บ้าง

กฎแห่งความสำเร็จ ของวิธีการนี้ โดยมีทั้งหมด 3 ข้อ คือ
 “1. รู้ว่าสินค้าอะไรบ้างที่กำลังขายดี และจะสร้างโอกาสทำเงินมหาศาลได้อย่างไร”
“2. รู้ว่าจะหาสินค้าขายดีที่มี คุณภาพ ที่ไหน มาขายให้คนที่กำลังมีความต้องการ”
“3. รู้วิธีทำให้สินค้าของผมติดอันดับต้นๆใน …เพื่อให้ลูกค้าเห็นสินค้าและสร้างยอดขายจำนวนมากได้อย่างไร”

ขายสินค้าบนเว็บไซต์ (E-Commerce)Dropshipping


เนื่องจากในช่วงแรกที่ธุรกิจมีปัญหา ผมไม่มีทุนในการเริ่มต้นมากนัก โจทย์ที่ผมได้ตั้งไว้ข้อหนึ่ง คือใช้ต้นทุนในการเริ่มต้นที่น้อยที่สุด นั่นคือระบบของ Dropshipping ก็ตอบโจทย์ได้ทั้งหมด
สำหรับคนที่ยังไม่รู้ว่า Dropshipping คืออะไร?
พูดง่ายๆก็เหมือนกับเราเป็นนายหน้าในการขายสินค้าออนไลน์
ขั้นตอนของการ Dropship มีดังนี้
  หาสินค้าหรือหาผู้ให้บริการ Dropship ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ตาม dhgate.com, lightinthebox.com, alibaba.com
  เสนอตัวเป็นตัวแทนการขายหรือเอเยนต์ และทำการ copy รูปภาพและรายละเอียดสินค้า โดยอาจจะเปิดเว็บไซต์หรือโฆษณาผ่านช่องทางการตลาดต่าง ๆ เพื่อทำการขายสินค้านั้น ๆ
  เมื่อขายได้ ให้ลูกค้าโอนเงินมาที่เรา และเราจะโอนเงินไปให้เจ้าของโรงงานเพื่อส่งของให้ลูกค้าของเรา โดยเราไม่จำเป็นต้องประกันสินค้าด้วยตนเองและไม่เสี่ยงที่จะเสียลูกค้าหากเราเจอ Dropship มืออาชีพ
  พยายามอัพเดตสินค้าใหม่ ๆ เพื่อให้มีความหลากหลายมากขึ้น เนื่องจากจุดเด่นของ Dropship คือความหลากหลายของสินค้าที่จะสามารถขายได้
1. เราต้องไปติดต่อกับผู้ขายสินค้าที่มีสต๊อกสินค้าอยู่แล้ว โดยเราจะได้ราคาส่ง หรือราคาพิเศษ
2. จากนั้นเราสามารถนำรูป + รายละเอียดสินค้าของผู้ขายที่เราติดต่อไว้ มาลงขายเหมือนเป็นสินค้าของเราเอง โดยการบวกกำไรจากราคาที่ได้รับมา
3. เมื่อมีการสั่งซื้อ เราก็แจ้งข้อมูลของผู้ซื้อและโอนเงิน(ในราคาที่ตกลงกันไว้)ไปยังผู้ขาย เพื่อให้ผู้ขายส่งสินค้าให้
จะเห็นได้ว่า Drop Shiping จะมีข้อดีในแง่ของคนที่ต้องการขายสินค้าแต่ไม่มีทุนในการสต็อกสินค้า อีกทั้งไม่ต้องยุ่งยากในเรื่องของการจัดส่งสินค้าอีกด้วย โดยสรุป
ข้อดี
   - ไม่จำเป็นต้องลงทุน มีสินค้าให้เลือกมากมาย
   - ฐานข้อมูลลูกค้าเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆทำให้ง่ายต่อการทำธุรกิจใหม่ ๆในอนาคต
   - ไม่จำเป็นต้องมีความเชี่ยวชาญในสินค้านั้น ๆ ไร้ความเสี่ยงในการเริ่มต้นธุรกิจ
   - ประหยัดเวลาการทำธุรกิจ เพราะมีรูปภาพ รวมถึงข้อมูลเรียบร้อยแล้ว
    -ไม่ปวดหัวกับการโดนโรงงานหักหลัง โดยเราสามารถเลือกใช้บริการเฉพาะ Dropship มืออาชีพ
ข้อเสีย
   - ธุรกิจเล็ก ไม่สามารถทำเป็นธุรกิจที่ยั่งยืนได้ เพราะยิ่งทำ คนอื่นยิ่งโต
   - เป็นไปได้สูงที่เจอ Dropship หักหลัง เนื่องจาก Dropship ที่เวิร์คมาก ๆส่วนใหญ่จะอยู่ประเทศจีน ดังนั้น มาตราฐานของประเทศจีนจะค่อนข้างต่ำและอาจจะเสียลูกค้าได้
   - การเข้าถึงของคู่แข่งง่ายเกินไป เพราะใคร ๆก็เริ่มต้นธุรกิจได้
   - โดนปิด Account
    -Supplier บางเจ้าที่ใช้อยู่นั้น เลิกทำธุรกิจไป ทำให้ไม่มีแหล่งรับสินค้า
    -โดนคืนเงินล็อตใหญ่ จากลูกค้าเจ้าปัญหา
    - สินค้าบางส่วนทำตลาดไม่ได้จริง เนื่องจากต้นทุนค่อนข้างสูง ทำให้เราไม่สามารถแข่งขันราคาได้ ดังนั้นต้องมีความเชี่ยวชาญในการทำเป็นพิเศษ โดยอาจจะเลือกสินค้าที่มีคู่แข่งต่ำหรืออาจจะเน้นการทำตลาดที่เหนือกว่าคู่แข่งทำให้เราสามารถขายได้มากกว่า
     โดยสรุป ธุรกิจดรอปชิปถือเป็นธุรกิจที่ดีสำหรับผู้เริ่มต้นและต้องการเก็บรวบรวมเงินทุนในระยะสั้น โดยการทำธุรกิจดรอปชิปต้องใช้ความเชี่ยวชาญและความขยันหมั่นเพียรสูง หากความพยายามไม่มากจริง ๆ ผมค่อนข้างมั่นใจว่าคุณอาจจะล้มเหลวในธุรกิจนี้ เนื่องจากธุรกิจประเภทนี้ต้องสะสมชั่วโมงบิน เรียกได้ว่าใครประสบความล้มเหลวมากกว่ากัน คนนั้นมีสิทธิ์ประสบสำเร็จได้มากกว่า



     ขั้นตอนการทำธุรกิจแบบ Dropship
Dropship คือการเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าโดยที่ตัวแทนจำหน่ายไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้านเป็นของตัวเอง การทำธุรกิจด้วยวิธีการแบบ Dropship นั้นสามารถเริ่มต้นธุรกิจได้โดยไม่มีเงินทุน ไม่ต้องมีสต็อกสินค้า ไม่ต้องวุ่นวายกับการผลิต โดยสามารถเลือกสินค้า กระเป๋า จาก www.salecarry.com ไปลงจำหน่ายในช่องทางออนไลน์ของคุณ ทาง salexxxxนั้นรับสมัครตัวแทนจำหน่ายกระเป๋า โดยตัวแทนจำหน่ายสามารถนำรูปภาพหรือสินค้าของทางเว็บไซต์ไปขายต่อโดยหากคุณสนใจสามารถทำการติดต่อเข้ามาได้ที่ Line : xxxxx ซึ่งมี 6 ขั้นตอนของการทำธุรกิจแบบ Dropship เบื้องต้นง่ายๆ ที่คุณเองก็ทำได้ กำไรง่ายๆ เพียงแค่มือคลิก
1.ตัวแทนจำหน่ายมีช่องทางออนไลน์เป็นของตนเอง
ตัวแทนจำหน่ายกระเป๋าจำเป็นต้องมีช่องทางออนไลน์เป็นของตนเองที่เปรียบเสมือนเป็นหน้าร้านที่ให้ลูกค้าได้เข้ามาเลือกชมสินค้าและเลือกซื้อของ โดยหน้าร้านอาจจะเป็นได้ทั้งทางเว็บไซต์ เฟสบุ้คแฟนเพจ อินสตราแกรม ไลน์ ตามแต่ที่ตัวแทนจำหน่ายสะดวกและใช้งานง่ายเป็นหลัก โดยจัดทำช่องทางดังกล่าวให้เหมาะแก่การเปิดร้านจำหน่ายสินค้า
2.ตัวแทนจำหน่ายกระเป๋าติดต่อกับร้านค้าที่รับทำ Dropship
ซึ่งทางร้าน salexxxx ได้เป็นร้านค้าที่รับสมัครตัวแทนจำหน่ายกระเป๋า ซึ่งหากผู้ใดสนใจจะร่วมเป็นตัวแทนจำหน่ายกระเป๋ากับทางเราสามารถติดต่อเข้ามาได้ทางไลน์เพื่อสอบถามรายละเอียดและราคาของสินค้าที่ทางเราจะส่งให้ตัวแทนจำหน่ายกระเป๋าได้
3.ตัวแทนจำหน่ายโปรโมทสินค้า
เมื่อได้เป็นตัวแทนจำหน่ายกระเป๋าแล้ว สิ่งสำคัญที่ไม่ควรลืมคือการโปรโมทสินค้าที่เราเป็นตัวแทนการจำหน่ายแบ Dropship ซึ่งต้องขยันอัพเดทข้อมูลและสินค้าใหม่ๆ ให้หลายหลายเสมอเพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า
4.ตัวแทนจำหน่ายเช็คสต็อกกับร้านค้าที่รับ Dropship ทุกครั้ง
ก่อนยืนยันการสั่งซื้อกับลูกค้าตัวแทนจำหน่ายควรเช็กสต็อกสินค้ากับร้านที่เราร่วมทำ Dropship ด้วย เพื่อความถูกต้องและตรงกับความต้องการของลูกค้า โดยการกระทำเหล่านี้เป็นการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับร้านค้าได้เป็นอย่างดี ที่จำหน่ายของได้ตรงสเปคและไม่ต้องเสียเวลาและความรู้สึกในกรณีที่สินค้าที่ลูกค้าต้องการหมดสต็อกอีกด้วย
5.ขั้นตอนการชำระเงินของตัวแทนสินค้า
หลักเช็กสต็อกและทางผู้แทนจำหน่ายได้ให้ลูกค้าชำระเงินมายังตัวแทนจำหน่ายสินค้าแล้วซึ่งราคาสินค้าที่ได้รับการชำระนี้ตัวแทนจำหน่ายจะได้กำไรจากส่วนต่างที่ได้มาจากค่าสินค้าที่ลูกค้าชำระจริงหักด้วย ค่าสินค้าที่ร้านค้า Dropship คิดนั่นเอง ทางผู้แทนจำหน่ายก็เพียงโอนเงินค่าสินค้าตามที่ได้ตกลงไว้กับร้าน Dropship เพื่อยืนยันการสั่งซื้อ
6.แจ้งขั้นตอนการส่งสินค้าให้กับลูกค้ารับทราบการส่งสินค้า
ร้านค้าจะจัดส่งสินค้าตัวแทนจำหน่ายโดยระบุผู้จัดส่งลงในนามหรือชื่อร้านที่ตัวแทนจำหน่ายได้ติดต่อไว้โดยการส่งลงทะเบียนทางไปรษณีย์ ร้านค้าจะทำส่งหมายเลขพัสดุให้ตัวแทนจำหน่ายนำไปแจ้งกับลูกค้าโดยตรงอีกทางหนึ่ง เป็นอันจบกระบวนการส่งสินค้า โดยที่ตัวแทนจำหน่ายไม่ต้องเหนื่อยวุ่นวายกับการเช็กสินค้าหรือนำไปส่งต่อที่ไปรษณีย์ให้วุ่นวายแต่อย่าง


ส่วนประกอบหลัก 3 อย่างสำหรับการทำ Internet Marketing ให้ประสบความสำเร็จ
1.ต้องมี Advertiser หรือ เจ้าของสินค้าที่ดี (ทั้งแบบ In-House Affiliate หรือ Affiliate Network ต่างๆ) เช่น มีระบบการจัดการที่ดี, มีความซื่อสัตย์ต่อ Affiliate, ผลตอบแทนที่เป็นค่าคอมมิชชั่นไม่ต่ำจนเกินไป เป็นต้น โดยผมจะหาข้อมูล Feedback จากคนที่เคยทำ Affiliate Program กับ Advertiser เจ้านั้น (หาจาก Google ว่ามีคนคอมเมนต์ไว้อย่างไรบ้าง โดยใช้การค้นหาด้วยชื่อ Advertiser + Affiliate + Scam) เพื่อการตัดสินใจ
2.ต้องมีสินค้าและมีเว็บไซต์ปลายทาง(Landing Page) ที่ดี เว็บไซต์ต้องสวย ดูแล้วน่าเชื่อถือ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสามารถในการเปลี่ยน Traffic (คนที่เข้ามาที่เว็บไซต์) ที่เราส่งเข้าไปที่เว็บไซต์ของ Advertiser ให้กลายเป็นลูกค้า หรือ ปิดการขายได้นั่นเอง
3.ต้องมีแหล่งทราฟฟิคที่ดี (คนที่เราจะส่งไปที่เว็บไซต์ของ Advertiser) ทีมีการซื้อสินค้า หรือ กระทำสิ่งใดๆที่ทาง Advertiser สร้างเงื่อนไขไว้ในการจ่ายค่าตอบแทนให้กับเรา เช่น กรอกแบบฟอร์ม  หรือ ซื้อสินค้า                                                                      
          

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น